ศิริราชเปิดเกมรุก ยกระดับการแพทย์ไทยสู่ Medical Hub เอเชีย “ศิริราชจะขอเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานที่เหมาะสม” คำประกาศวิสัยทัศน์ของ ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กำลังสะท้อนภาพการเปลี่ยนผ่านเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ของระบบบริการสุขภาพไทย ที่ไม่ได้มุ่งเพียงแค่การดูแลคนไข้ในโรงพยาบาล แต่กำลังขยายแนวรบออกสู่โมเดลใหม่ เพื่อรองรับอนาคตที่เปลี่ยนไป
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลศิริราชกับไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต SIRIRAJ H SOLUTIONS ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน เพื่อลดภาระการแออัดของผู้ป่วยที่หลั่งไหลเข้ารพ.ศิริราชกว่า 20,000 คนต่อวัน ขณะเดียวกันก็เปิดพื้นที่ใหม่ให้คนรักสุขภาพทุกกลุ่มเข้าถึงบริการแพทย์เฉพาะทางได้ง่ายขึ้น
“ศิริราชจะขอเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานที่เหมาะสม”
ตั้งแต่ปีแรก SIRIRAJ H SOLUTIONS ได้พัฒนาคลินิกเฉพาะทางอย่างรวดเร็ว เริ่มต้นจากคลินิกอายุรกรรม คลินิกเวชศาสตร์การกีฬา คลินิกผิวหนังและความงาม ไปจนถึงคลินิกถันยรักษ์สำหรับดูแลมะเร็งเต้านม และคลินิกสุขภาพหญิง โดยใช้โมเดล “วันเดียวจบ” ที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจวินิจฉัยและปรึกษาแพทย์เฉพาะทางได้ครบวงจรภายในวันเดียว
ในปีที่ 2 ได้เพิ่มบริการสำคัญอย่างคลินิกทันตกรรม ซึ่งให้บริการโดยทีมทันตแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งในด้านตรวจสุขภาพ ขูดหินปูน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด และรักษาโรคเหงือก รวมถึงคลินิก Sleep @SIRIRAJ ที่ให้บริการตรวจและวินิจฉัยปัญหาการนอนหลับ พร้อมระบบ Sleep Test @Home ซึ่งผู้รับบริการสามารถตรวจได้ที่บ้านโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการสะสมมากกว่า 48,000 ราย โดยเฉลี่ยวันธรรมดา 250-300 คน เสาร์-อาทิตย์พุ่งถึง 400-500 คนต่อวัน กลุ่มเป้าหมายหลักคือคนวัยทำงาน 30-50 ปี ที่ต้องการบริการทางการแพทย์ที่เข้าถึงง่าย เบิกจ่ายได้ตามสิทธิสวัสดิการ และมีมาตรฐานระดับโรงพยาบาลศิริราช และในราคาที่เหมาะสม
นอกจากการให้บริการในสถานที่แล้ว ศูนย์ฯ ยังขยายรูปแบบไปยังองค์กรต่าง ๆ ผ่านบริการ Mobile Checkup และวัคซีนนอกสถานที่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าองค์กร ทั้งภาครัฐ เอกชน
ในปี 2568 ตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้บริการสู่ 800-1,000 รายต่อวัน พร้อมเตรียมเปิดคลินิกเฉพาะทางเพิ่มเติม อาทิ คลินิกจิตเวชเพื่อดูแลทุกกลุ่มและกลุ่ม LGBTQ+ เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องเหมาะสมในกลุ่มผุ้ใช้ยาระยะยาม รวมถึงขยายความสามารถคลินิกฟื้นฟูร่างกาย กายภาพบำบัด และคลินิกตรวจปอดจากผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 และจะมีการปรับลดปรับเพิ่มให้เหมาะสมกับสถานการโรคที่เปลี่ยนไป
“ตลาดสุขภาพยังเติบโตได้อีกมาก คนป่วยมากขึ้น แต่ภาครัฐยังตามไม่ทัน ”
ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ กล่าว พร้อมย้ำว่าการลงทุนของศิริราชในอนาคตจะไม่ได้จำกัดเฉพาะ SIRIRAJ H SOLUTIONS เท่านั้น
ขณะนี้ ศิริราชอยู่ระหว่างสร้างโรงพยาบาลศิริราชนานาชาติ ซึ่งจะเปิดให้บริการในรูปแบบ Medical Hub ระดับโลก บนแนวคิดการรักษาที่มีมาตรฐานที่ “เหมาะสม” ทั้งในด้านคุณภาพ การเข้าถึง และค่าใช้จ่าย โดยกำไรจากโรงพยาบาลใหม่นี้จะถูกนำกลับไปสนับสนุนโรงพยาบาลศิริราชเดิม เพื่อให้คนไทยช่วยคนไทย ให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลในราคาที่เอื้อมถึง
รพ.ศิริราชวางงบลงทุนกว่า 1.69 พันล้านบาท เพื่อแผนสร้าง Academic Institute และ International Medical Hub พร้อมก่อสร้าง “Bangpho Medical Hub” เมืองแพทย์แห่งใหม่ กว่า 17,000 ล้านบาท
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับผู้ป่วยต่างชาติ ศิริราชเตรียมเปิดหลักสูตรแพทย์อินเตอร์ และวางระบบเชิญแพทย์ไทยที่ทำงานต่างประเทศให้กลับมาช่วยในช่วงเวลา โดยเฉพาะในกลุ่มแพทย์เฉพาะทางที่มีศักยภาพสูง
นอกจากนั้น ยังมีแผนสร้างความร่วมมือกับโรงแรมระดับนานาชาติ เพื่อเปิดบริการดูแลผู้ป่วยต่างชาติแบบครบวงจร และตั้งเป้าพัฒนาให้ประเทศไทยเป็น Medical Destination เต็มรูปแบบในอีก 5-10 ปีข้างหน้า โดยใช้จุดแข็งที่มีทั้งคุณภาพทางการแพทย์และค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าต่างประเทศถึง 3-5 เท่า
🧭 วิเคราะห์เทรนด์ ความได้เปรียบ และแนวโน้ม
✅ จุดแข็ง
-
ชื่อเสียงศิริราช: รพ.ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของไทย รับประกันความน่าเชื่อถือและมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์
-
ทำเลศักยภาพ: ตั้งใน ICS ติด ICONSIAM ใกล้ BTS/เรือ พร้อมเข้าถึงกลุ่มคนชั้นกลาง-บนและคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง
-
การต่อยอดตรงไลฟ์สไตล์: คลินิกครบทั้งตรวจทั่วไป-เชิงลึก-เฉพาะทาง ตอบโจทย์ผู้ทำงาน กลุ่มวัยกลางคน และนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
⚠️ ความท้าทาย
-
การแข่งขันสูง: ต้องรักษามาตรฐาน JCI และความยั่งยืนด้านบุคลากร แพทย์ และเทคโนโลยี
-
การบริหารค่าใช้จ่าย: แม้การดึงผู้ป่วยต่างชาติจะเพิ่มรายได้ แต่ต้องระวังต้นทุนค่ารักษาพยาบาลที่ต้องบริหารให้สมดุล
🔍 แนวโน้ม
-
โมเดลสุขภาพนอกโรงพยาบาล/One‑Stop Shop และรีโมตบริการ (Sleep Test, Mobile Checkup) จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
-
การผสานการรักษาพยาบาล-การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) จะขยายฐานผู้ใช้บริการระดับโลก
-
การสร้างแพทย์อินเตอร์ จะรับประกันคุณภาพ และสนองนโยบาย Thailand 4.0 ด้าน Medical Hub
✍️ สรุปประเด็นสำคัญ
-
“ศิริราชจะขอเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานที่เหมาะสม” ไม่ใช่คำกล่าวเฉยๆ แต่คือเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการปรับตัวสู่ยุคใหม่
-
ด้วยการผสมผสานระหว่าง การแพทย์เชิงลึก บริการระดับนานาชาติ และ ราคาที่ย่อมเยา ศิริราชแสดงศักยภาพในการพลิกบทบาทจากโรงพยาบาลรัฐสู่องค์กรรพ.ศิริราช
-
โครงการขยายสู่ Bangpho International Medical Hub พร้อมกับ SIRIRAJ H SOLUTIONS ภายนอกโรงพยาบาล ยืนยันว่าศิริราชกำลังมุ่งสู่ตำแหน่ง Medical Hub ที่ตอบโจทย์คนไทยและนานาประเทศอย่างแท้จริง
สิ่งเหล่านี้สะท้อนภาพการเปลี่ยนผ่านของโรงพยาบาลศิริราช จากสถาบันการแพทย์ของรัฐ สู่การเป็นผู้เล่นหลักในเวทีบริการสุขภาพระดับภูมิภาค ที่ไม่เพียงรักษาโรค แต่กำลังยกระดับชีวิตของผู้คนให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ทั้งในไทยและทั่วโลก