“แลนด์แอนด์เฮ้าส์” เปิดแผนปี 65 ขยับรุกผุดโครงการเพิ่ม ควักงบ 6,000 ล้านซื้อที่ดิน เมินคอนโดมิเนียมผุดเพียง 1 โครงการ

700

“แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” เปิดแผนฝ่าโควิด “โอมิครอน” ปี 65 เปิดโครงการใหม่ มูลค่า 29,520ล้านบาท เพิ่มจากปี 64 ถึง 50%ควักงบ 10,000ล้านลงทุนซื้อที่ดิน 6,000 ล้าน และอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า4,000 ล้าน  พร้อมวางแผน ขายอพาร์ตเม้นต์ในอเมริกา แต่พร้อมลงทุนเพิ่ม และออกหุ้นกู้ปีนี้ 14,000 ล้าน

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ  ประธานคณะกรรมการบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยแผนการดำเนินงานปี 2565 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัส Covid-19 ว่า ในปี 2564 ที่ผานมาบริษัทเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่าโครงการ 19,680 ล้าน โดยมีการใช้เงินลงทุนทั้งหมด 9,000 ล้าน ซื้อที่ดินพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย5,100 ล้าน และลงทุนในธุร กิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าโดยผ่านบริษัทLHMHและ LH USA มูลค่า 3,900ล้าน

“โดยมีการพัฒนาศูนย์การค้า Terminal 21 Rama 3มูลค่ 1,285 ล้านบาท, พัฒนาธุรกิจโรงแรมและอะพาร์ตเม้นต์2,615ล้าน ขณะเดียวกันใน ปี 2564 บริษัท LHMHมีโครงการที่ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนาทั้งหมด 6 โครงการ และมีอีก 1 โครงการที่รอการส่งมอบที่ดิน คือแปลงที่ดิน Peninsula Plazaซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการ Grande Centre Point Ratchadamri 2

นอกจากนี้ในช่วงปลาปีเดือนธันวาคม 2564 บริษัท LH USA ได้เข้าซื้อโรงแรมThe SpringHill Suites  by Marriott ในเมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นการซื้อขาดและได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในที่ดิน พื้นที่ 2.07 เอเคอร์ จำนวนห้องพัก 120 ห้อง ราคา 31 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,056 ล้านบาท”

ขณะที่ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ออกหุ้นกู้ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท ระยะเวลา 2-3 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.40% ต่อปีโดยหาประเมิน ณ สิ้นปี 2564 บริษัทจะมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิ มีจำนวน 50,800ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 101% และต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย  2.15%

72990


ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2565 นั้น นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ  เปิดเผยว่า สาระสำคัญของแผนการดำเนินงานนั้นบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 29,520 ล้านเพิ่มขึ้น 50% เทียบกับ ปี 2564โดยบริษัทฯได้เตรียมงบลงทุนไว้ทั้งหมดประมาณ 10,000 ล้านบาท แบงเป็งบสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย6,000 ล้านบาท  แลงบลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า 4,000ล้านบาทขณะเดียวกันปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะขายอพาร์ตเมนต์ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก็จะหาโอกาสเพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่ม

อย่างไรก็ดี เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการลงทุนและสภาพคล่อง บริษัทฯมีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกจำนวน 14,000 ล้านบาท และคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจะอยู่ในระดับที่ลดลงจากสิ้นปี 2564 โดยอยู่ในระดับที่ไม่เกิน 100%

ทั้งนี้ในปี 2565 ณ ต้นปีบริษัทฯมีจำนวนโครงการที่ดำเนินการทั้งสิ้น74 โครงการ เป็นโครงการในกรุงเทพและปริมณฑล44 โครงการ ต่างจังหวัด 30 โครงการ โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 29,520ล้านบาท โดยโครงการที่จะเปิดใหม่ แบ่งเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล12 โครงการ และต่างจังหวัด 3 โครงการ  โดยเมื่อแยกตามประเภทสินค้า จะเป็น โครงการบ้านเดี่ยว 11โครงการ, โครงการบ้านแฝด4โครงการ, โครงการทาวน์เฮ้าส์ 2โครงการ,โครงการคอนโดมิเนียม1โครงการ

ดังนั้น จำนวนโครงการที่ดำเนินการในปี 2565 มีทั้งหมดประมาณ 89 โครงการ เป็นมูลค่ากว่า 82,900ล้านบาท และประมาณราคาเฉลี่ยต่อหน่วยขายในปี 2565 เท่ากับ 7.4 ล้านบาท (ปี 2564ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 7.6 ล้านบาท)   

ส่วนแผนยการการดำเนินงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า บริษัทฯดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา โดยธุรกิจในประเทศไทยดำเนินงานภายใต้ชื่อบริษัท แอลเอชมอลล์แอนด์โฮเทล (LHMH) และธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา ดำเนินงานภายใต้ชื่อบริษัท แอลเอชยูเอสเอ (LHUSA) โดยประกอบด้วยโครงการห้างสรรพสินค้า โรงแรม อพาร์ตเมนต์และพื้นที่สำนักงานให้เช่า

 

 

Leave A Reply

Your email address will not be published.