เทรนด์การออกแบบที่อยู่อาศัย 2026 เมื่อ “Longevity Living” กลายเป็นหัวใจของบ้านยุคใหม่

62


ปี 2026 การออกแบบที่อยู่อาศัยไม่ได้มุ่งแค่ความสวยงามหรือฟังก์ชันอีกต่อไป แต่ขยับสู่การสร้าง “คุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว” หรือ Longevity Living ตั้งแต่ระดับอาคาร พื้นที่ใช้สอย ไปจนถึงการออกแบบชุมชน เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน

Longevity Living  จุดเริ่มต้นของแนวคิดที่อยู่อาศัยยุคใหม่ ตลอดปี 2025 แนวคิด Longevity ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายในฐานะเป้าหมายของการมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ทั้งในมิติของสุขภาพกาย สุขภาพใจ และความสมดุลของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น

  • การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

  • การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

  • การพักผ่อนที่เพียงพอ

  • การจัดการความเครียด

  • การอยู่ในสังคมที่เกื้อหนุนกัน

  • การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน

เมื่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป “ที่อยู่อาศัย” จึงกลายเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้แนวคิด Longevity เกิดขึ้นได้จริงในชีวิตประจำวัน

72990

ภาพรวมอาคาร  พลังงานสะอาดและความยั่งยืนคือมาตรฐานใหม่

การออกแบบอาคารที่อยู่อาศัยในปี 2026 จะให้ความสำคัญกับ Sustainability อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแนวคิดเชิงสัญลักษณ์ อาคารผลิตพลังงานใช้เองได้ อาคารที่สามารถผลิตพลังงานทดแทนได้เพียงพอต่อการใช้งาน เช่น

  • การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์

  • การใช้กระจกโซลาร์เซลล์
    เพื่อลดการพึ่งพาพลังงานจากภายนอก และช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

การจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง

  • เพิ่มการรีไซเคิลของเสียจากการก่อสร้าง

  • แยกประเภทขยะตั้งแต่ต้นทาง

  • จัดการขยะอันตรายอย่างถูกวิธี
    เพื่อลดปริมาณขยะฝังกลบและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


พื้นที่ใช้สอยภายใน บ้านที่ยืดหยุ่นและสะท้อนตัวตนผู้อยู่อาศัย พื้นที่ปรับเปลี่ยนได้ รองรับกิจกรรมหลากหลาย พื้นที่ภายในบ้านจะถูกออกแบบให้ ยืดหยุ่น (Flexible Space) สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ง่าย เพื่อรองรับการทำงาน พักผ่อน ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมส่วนตัวที่หลากหลายในพื้นที่เดียวกัน Universal Design สำหรับทุกเพศทุกวัย การออกแบบเพื่อรองรับ

  • ผู้สูงอายุ

  • ผู้มีข้อจำกัดทางร่างกาย

  • ครอบครัวที่เลี้ยงสัตว์
    โดยเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย ดูแลรักษาง่าย และใช้งานได้จริงในระยะยาว

Well-being ผ่านประสาทสัมผัส การสร้างบรรยากาศที่ช่วยลดความเครียดด้วย

  • แสงที่นุ่มนวล

  • การควบคุมเสียง

  • กลิ่นที่ช่วยผ่อนคลาย

ดึงธรรมชาติเข้าสู่อาคาร (Biophilic Design) แม้ไม่จำเป็นต้องปลูกต้นไม้ภายในอาคาร แต่สามารถใช้

  • วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน

  • โทนสีสบายตา

  • ไม้หอมหรือกลิ่นธรรมชาติ
    เพื่อเชื่อมโยงผู้อยู่อาศัยกับธรรมชาติอย่างเป็นธรรมชาติ


พื้นที่ชุมชน บ้านไม่ได้จบแค่รั้ว แต่คือการใช้ชีวิตร่วมกัน พื้นที่กิจกรรมของชุมชน โครงการที่อยู่อาศัยจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น เช่น

  • ตลาดนัดขนาดเล็ก

  • Workshop เสริมทักษะ

  • กิจกรรมตามเทศกาล
    เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์และลดความรู้สึกโดดเดี่ยวของผู้อยู่อาศัย

สวนและแนวคิด Grounding การออกแบบสวนขนาดเล็กหรือพื้นที่สีเขียวส่วนกลาง เพื่อให้

  • เดินเท้าเปล่าสัมผัสดิน หญ้า ทราย หรือหิน

  • เชื่อมโยงร่างกายกับธรรมชาติ
    ช่วยสร้างความผ่อนคลายและสมดุลทางกายใจ

ความยั่งยืนด้านอาหาร Agrihoods แนวคิด Agrihoods (Agriculture + Neighborhood)
คือการสร้างพื้นที่เกษตรให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม เช่น

  • แปลงผักสวนครัวในหมู่บ้าน

  • พื้นที่ปลูกผักในอาคารพักอาศัย
    เพื่อแบ่งปันผลผลิต สร้างความสัมพันธ์ และความมั่นคงทางอาหาร

โทนสีประจำปี 2026  Cloud Dancer กับความสงบที่จับต้องได้ Pantone ประกาศให้ PANTONE 11-4201 Cloud Dancer เป็นสีประจำปี 2026 สื่อถึง

“เสียงกระซิบของความสงบและสันติภาพในโลกที่วุ่นวาย”

สีขาวนวลโทนนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการออกแบบที่อยู่อาศัย โดยสามารถใช้เป็น

  • สีหลักของพื้นที่

  • พื้นหลังที่ช่วยขับวัสดุธรรมชาติ

  • ตัวแทนของความสะอาด เบาบาง และ Well-being

 

บ้านปี 2026 คือพื้นที่ของชีวิตในระยะยาว จากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างครอบครัว

  • คู่รักที่ไม่มีลูก

  • การเลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกครอบครัว

  • กลุ่มเพื่อนที่อยู่อาศัยร่วมกัน

การออกแบบที่อยู่อาศัยในปี 2026 จึงต้องก้าวข้ามกรอบเดิม และมุ่งตอบโจทย์ คุณภาพชีวิต ความยืดหยุ่น และการอยู่ร่วมกันในชุมชนเพื่อให้บ้านไม่ใช่เพียงที่พักอาศัย แต่เป็นพื้นที่ที่ช่วยให้คน “ใช้ชีวิตได้ดี” ในทุกช่วงวัยอย่างแท้จริง

Leave A Reply

Your email address will not be published.