“แค่ขยับ ประเทศก็เปลี่ยน” บทสัมภาษณ์พิเศษ “สงกรานต์ อิสสระ”

26

แค่ขยับ ประเทศก็เปลี่ยน” บทสัมภาษณ์พิเศษ “สงกรานต์ อิสสระ” กับวันที่อสังหาไม่มีสตอรี่ ประเทศไร้ทิศ และอนาคตที่รอการปลุก

“GDP โต 2% แบบนี้ต่ออีกปี สุดท้ายไม่ต้องพูดถึงเรื่องความหวัง…มันไม่มีแล้ว”  คำพูดตรง ๆ จากคุณสงกรานต์ อิสสระ CEO แห่งชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้หวือหวา แต่ตั้งใจจะพูดให้ “ตื่น”

ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะงักซ้ำซากต่อเนื่องมาจากโควิดจนมาถึงวันนี้ ธุรกิจที่เป็น “กระดูกสันหลังของประเทศ” ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง ค้าปลีก หรือนักลงทุน SME ต่างก็โดนเต็ม ๆ เพราะ “เครื่องจักรไม่เดิน” และ “ไม่มีสตอรี่ใหม่ให้วิ่งต่อ”

สงกรานต์ อิสสระ

“แจกเงินไม่ช่วยอะไรเลย ถ้าประชากรยังเท่าเดิม ไม่มี Demand ใหม่ ๆ เข้ามาประชากรไม่ขยับ เวียดนามไปถึงร้อยล้านคนแล้ว กำลังซื้อมากขึ้น กำลังคนเยอะขึ้น แต่เรายัง 70 กว่าล้านอยู่ที่เดิม แล้วใครจะหวัง ใครจะซื้ออะไร” 

 

ประเทศต้องมี “สตอรี่” ไม่ใช่แค่มี “งบแจก”

72990

คุณสงกรานต์ย้อนนโยบายในอดีต ทั้ง “อีสเทิร์นซีบอร์ด” ในยุคนายกเปรม หรือ “EEC” ที่ผ่านมาที่แม้จะมีผลักดันทุกส่วนของประเทศแต่ก็ยังมีภาพของ “อุตสาหกรรมที่จับต้องได้” จนคนและการลงทุนหลั่งไหลเข้าไปตามธรรมชาติ

แต่วันนี้ ประเทศไทยกลับว่างเปล่า ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีเรื่องเล่า ไม่มีทิศทาง “สิ่งที่แย่ที่สุดคือความว่างเปล่า เราต้องมีเป้าอย่างน้อยให้คนจับต้องได้  มีเรื่องเล่า ต้องมีแผนยาว ยกตัวอย่าง โครงการคอคอดกระ ไม่ใช่แค่ฝันกลางวัน แต่มันสร้างเศรษฐกิจได้จริง”  โครงการควรมีโครงการระดับประเทศที่มี Vision ให้ชัดสร้างเรื่องราว เช่น คอคอดกระ เฟส 1 – เฟส 2 วางเป้า 20 ปี สร้างโครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่ถนน ท่าเรือ เขตอุตสาหกรรม ไปจนถึงเมืองอยู่อาศัย  เมื่อมีแผน อะไรก็ จะตามมา ไม่ว่ามันจะเกิดได้หรือไม่ได้ได้ ขอให้มีเรื่องราว

 

ส่งออก-ท่องเที่ยว “ยังไม่รอด”  คู่แข่งรุกแรง ไทยถอยทุกมิติ 

“ส่งออกแย่ ท่องเที่ยวก็ไม่รอด เพราะภาพลักษณ์เราเสีย”

คุณสงกรานต์ย้ำว่า การท่องเที่ยวครึ่งปีหลังยังไม่เห็นแสง เพราะปัจจัยพื้นฐานทั้งความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือถูกบั่นทอนจากเหตุการณ์เล็ก ๆ แต่สะเทือนความเชื่อมั่นระดับประเทศ

“ข่าวลบไทยอาจจะเงียบในประเทศ แต่พอไปถึงจีน ข่าวก็กลายเป็นคลื่นลูหใหญ่ที่ต้องใช้เวลาลืมเป็นปีปี ข่าวแท็กซี่ ข่าวตำรวจ ส่วย คือจุดเล็ก ๆ ที่ทำลายทุกอย่างเลย”  ขณะเดียวกัน คู่แข่งทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา กลับมีต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า พร้อมดีลภาษีที่ดีกว่า จึงกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของนักลงทุนทั่วโลก 

อสังหาฯ ไทย” จะอยู่รอด ต้องปรับให้ไว

“ปีนี้ต้องรัดเข็มขัด ต้องบริหารกระแสเงินสด ต้องเลือกลุยเฉพาะตลาดที่ชัดเจน และมี Demand จริง”

คุณสงกรานต์เปิดเผยว่า ชาญอิสสระ กำลังปรับกลยุทธ์ให้ lean มากที่สุด ทั้งการลดค่าใช้จ่าย การเตรียมออกหุ้นกู้ในปีหน้าพร้อมกันการจับมือกับพันธมิตรในหลายๆด้าน  และสำคัญคือการคัดกรองกลุ่มลูกค้าต่างชาติให้ละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นความน่าเชื่อถือสอดคล้องกับ positioning ของแบรนด์ ที่เป็นสุดเด่นสำคัญ ชาญอิสสระ เพราะ Luxury คือ เรา

แผนต่อไป ลุกตลาดกลุ่ม Luxury ต่อไป เร่งการขยายโครงการพักตากอากาศในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีดีมานด์ ตลาดสำคัญก็ยังคงเป็นภูเก็ตที่ยังมีที่ดินมี่พร้อมพัฒนา และยังได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าต่างชาติ เช่น รัสเซีย เยอรมนี หรือญี่ปุ่น

“กลุ่ม Luxuryในภูเก็ตยังซื้อเงินสดอยู่ เพราะ เชื่อในแบรนด์ และต้องการความมั่นคง ไม่ใช่แค่สินทรัพย์ลงทุน แต่เป็นบ้านจริง ๆ ที่เค้าจะอยู่”

บทสรุป จากมุมมองของ Property Channel

ปัญหาใหญ่สุด: “การเมืองไม่แน่น – นโยบายไร้ทิศ”

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ‘ไม่มีอะไรขยับ’ ไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม ไม่มีแผนระยะยาวให้คนเชื่อ

ถ้ามีเป้าอย่างเดียว อย่างอื่นจะค่อย ๆ ตามมา” วันนี้ประเทศต้องการ “จุดความหวังในวันที่ไม่มีความหวัง” ไม่ใช่แค่โปรเจกต์แบบประชาสัมพันธ์รายวัน แต่เป็นแผนใหญ่จริงจัง พื้นฐานของประเทศต้องมาจากการศึกษา ถ้าคนไม่แข็งแรง เศรษฐกิจจะไม่แข็งแรง” ธุรกิจอสังหาฯ จะอยู่ได้ ถ้าคนอยากอยู่ อยากใช้ชีวิต อยากลงทุน และรู้สึกว่าอนาคตจะดีขึ้น”

หากรัฐบาลต้องการจะ “ขยับ” แม้เพียงนิดเดียว  จุดนั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี..  แต่จะคิดได้ไหม 

Leave A Reply

Your email address will not be published.