AWC เปิดหน้าใหม่ริมเจ้าพระยา “เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์” บนมรดกวัฒนธรรม “ล้ง 1919”
จากท่าเรือกลไฟ… สู่จุดหมายปลายทางแห่งลักชัวรีและวัฒนธรรม
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดตัวโครงการสำคัญแห่งปี “โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน แบงค็อก เดอะ ริเวอร์ไซด์” บนพื้นที่ประวัติศาสตร์ “ล้ง 1919” และ “ถนนทรงวาด” ในกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นการยกระดับย่านไทย-จีนริมเจ้าพระยาให้เป็น ปลายทางด้านสุขภาพ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ระดับโลก โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บท AWC River Journey Project ที่เน้นการอนุรักษ์ พัฒนา และเชื่อมโยงเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็น “เส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ” ในอนาคต
จุดเด่นของโครงการ
1. การผสานมรดกวัฒนธรรมกับบริการระดับโลก
-
โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่โบราณสถาน “ล้ง 1919” ซึ่งเคยเป็นท่าเรือกลไฟในศตวรรษที่ 19 และเป็นที่ประดิษฐานศาลเจ้าแม่หม่าโจ้วที่ผู้คนเคารพบูชา
-
AWC ร่วมมือกับ Marriott International นำแบรนด์ The Ritz-Carlton เข้าสู่ย่านนี้เป็นครั้งแรก สะท้อนแนวคิด “ลักชัวรีที่มีราก” คือ ความหรูหราที่มีรากฐานทางวัฒนธรรม

2. การออกแบบตามแนวคิด “หยิน-หยาง”
-
โครงการครอบคลุม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยออกแบบให้สมดุลระหว่าง “พลังงานที่สงบ” และ “จิตวิญญาณที่มีชีวิตชีวา”
-
อาคารหลักสูง 20 ชั้น ผสมผสานดีไซน์ร่วมสมัยกับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมจีนโบราณ
-
ฝั่งตรงข้ามที่ถนนทรงวาด จะเป็นห้องพักที่ออกแบบในแนว “Shophouse Heritage” ซึ่งสะท้อนกลิ่นอายย่านเก่า
3. การอนุรักษ์และบูรณะอย่างพิถีพิถัน
-
ได้รับคำปรึกษาจาก รองศาสตราจารย์ ดร.พีรยา บุญประสงค์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร และกรมศิลปากร
-
ใช้วัสดุที่ใกล้เคียงของเดิมที่สุด และเทคนิคลดแรงสั่นสะเทือนในการก่อสร้าง
-
อาคารเก่า 2 หลังจะถูกดัดแปลงเป็นห้องพัก พร้อมศูนย์สุขภาพและห้องอาหาร
ฟังก์ชันและองค์ประกอบของโรงแรม
รายการ | รายละเอียด |
---|---|
ชื่อโครงการ | The Ritz-Carlton Bangkok, The Riverside |
จำนวนห้องพักรวม | 191 ห้อง (167 ห้องฝั่งหลัก + 24 ห้องฝั่งทรงวาด) |
สิ่งอำนวยความสะดวก | Rooftop Dining, Ballroom, Spa & Wellness Center, Cultural Tour Hub |
การเดินทางเชื่อมโยง | บริการเรือไฟฟ้าระหว่าง 2 ฝั่ง |
เป้าหมาย | The Integrated Wellness Destination & Luxury Cultural Retreat |
เปิดให้บริการ | ปี 2571 |
บริบททางประวัติศาสตร์: จาก “ฮวยจุ่งล้ง” สู่ “ล้ง 1919” พื้นที่เดิมคือ “ฮวยจุ่งล้ง” (Hua Xiong Long) ท่าเรือกลไฟเอกชนสำคัญยุคต้นรัตนโกสินทร์
-
เป็นจุดขนถ่ายสินค้าจากจีน-สยาม และมีสถาปัตยกรรมไทย-จีนดั้งเดิม
-
ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ
-
ได้รับการบูรณะเป็น “ล้ง 1919” ในปี 2560 โดยยังคงเอกลักษณ์อาคารไม้ 3 ชั้นล้อมลานกลาง (ซานเหอหยวน) ไว้อย่างครบถ้วน
วิสัยทัศน์ของ AWC และพันธมิตร วัลลภา ไตรโสรัส, CEO ของ AWC กล่าวว่า
“โครงการนี้เป็นมากกว่าการสร้างโรงแรมหรู แต่เป็นการลงทุนเพื่อการอนุรักษ์ การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และการปลุกชีวิตใหม่ให้กับมรดกริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมดันกรุงเทพฯ สู่เวทีท่องเที่ยวโลกในแบบที่มีราก มีเรื่องเล่า”
แบรด เอ็ดแมน, VP ประจำไทย กัมพูชา เมียนมา จาก Marriott International กล่าวเสริมว่า
“เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่นำวัฒนธรรมและลักชัวรีมารวมกันอย่างแท้จริง โดยยังเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วม และสะท้อนความยั่งยืนในระยะยาว”
โครงการนี้เชื่อมโยงอะไรบ้าง?
-
เชื่อมวัฒนธรรมไทย-จีน กับนักเดินทางรุ่นใหม่
-
เชื่อมชุมชนในย่านเก่า กับโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่
-
เชื่อมการอนุรักษ์มรดก กับโมเดลธุรกิจลักชัวรี
-
เชื่อมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยเทคโนโลยีเรือไฟฟ้าลดคาร์บอน
-
เชื่อมถนนทรงวาด-ล้ง 1919-เอเชียทีค-ปากคลองตลาด-เยาวราช ผ่าน AWC River Journey
วิเคราะห์เชิงกลยุทธ์
-
AWC วางตัวเองเป็นผู้นำใน “Luxury Cultural Hospitality” ของไทย
-
The Ritz-Carlton เป็น “แบรนด์แม่เหล็ก” ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากทั่วโลก
-
การเชื่อมโยงกับย่านเก่าให้กลายเป็น “Cultural Wellness Hub” สอดคล้องกับแนวโน้มโลก
-
การอนุรักษ์ระดับลึก ทำให้โปรเจกต์มีคุณค่าทางใจและเป็น Soft Power ใหม่ของกรุงเทพฯ
บทสรุป
โครงการ “The Ritz-Carlton Bangkok, The Riverside” ไม่ใช่แค่โรงแรมหรูริมแม่น้ำ แต่คือ “ตัวอย่างของการพัฒนาเมืองเชิงอนุรักษ์” ที่ผสานเรื่องราว ประวัติศาสตร์ และมรดกวัฒนธรรมเข้ากับมาตรฐานลักชัวรีระดับโลกอย่างลงตัว หากกรุงเทพฯ ต้องการรีแบรนด์สู่เมืองท่องเที่ยวยั่งยืนจริงจัง – ที่นี่อาจกลายเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” ที่สะท้อนอนาคตแห่งการท่องเที่ยวเชิงคุณค่าอย่างแท้จริง