บริษัท ซีคอน จำกัด ประเมินทิศทางธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2569 ยังสามารถเติบโตต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญความผันผวนด้านต้นทุนก่อสร้าง ทั้งราคาวัสดุและค่าแรง โดยเฉพาะภายหลังการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทในช่วงกลางปี 2568 ขณะที่ค่าแรงช่างฝีมือในเขตเมืองใหญ่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ด้านการบริหารต้นทุนและประสิทธิภาพการก่อสร้างมากขึ้น
นาย มนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด ระบุว่า ภาพรวมตลาดปี 2569 เป็นปีที่ต้องบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ แต่ยังเห็นโอกาสจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และทิศทางความต้องการบ้านคุณภาพที่ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาบ้านซึ่งตอบโจทย์ฟังก์ชัน คุณภาพชีวิต และการอยู่อาศัยในระยะยาว
ในด้านโครงสร้างต้นทุน ผู้บริหารซีคอนยอมรับว่าแรงกดดันจากค่าวัสดุและค่าแรงยังคงเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการที่มีระบบบริหารจัดการต้นทุนและการใช้เทคโนโลยีก่อสร้าง เช่น ระบบโครงสร้างสำเร็จรูปหรือพรีคาสท์ ยังสามารถควบคุมคุณภาพงานและรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2568 แบบบ้านในกลุ่ม “Your Home Series 1 และ 2” มียอดจองรวม 122 หลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 408 ล้านบาท โดยดีมานด์ส่วนใหญ่มาจากทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดโดยรอบที่มีศักยภาพ อาทิ ชลบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สระบุรี เขาใหญ่ นครราชสีมา และสุพรรณบุรี สะท้อนแนวโน้มความต้องการบ้านเดี่ยวคุณภาพในพื้นที่นอกเมืองที่ขยายตัวมากขึ้น ขณะเดียวกัน แบบบ้าน “ปลูกเรือน Series” ซึ่งเริ่มทำตลาดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็เริ่มมียอดจองในหลายจังหวัด เช่น ชลบุรี ชัยนาท สมุทรสาคร และนนทบุรี
จากทิศทางดังกล่าว ซีคอนจึงปรับแผนรุกขยายบริการไปยังพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 เป็นต้นมา ผ่านช่องทางออนไลน์และการพัฒนาแบบบ้านให้สอดคล้องกับรูปแบบการอยู่อาศัยในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม
อีกหนึ่งกลุ่มตลาดที่ยังคงสร้างรายได้ให้กับบริษัท คือกลุ่มบ้านออกแบบพิเศษภายใต้แบรนด์ SEACON ID ซึ่งเป็นงานสั่งสร้างเฉพาะรายในช่วงราคา 20–40 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อตารางเมตร โดยยังคงมีลูกค้ากลุ่มระดับบนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้านโยบายด้านความยั่งยืนผ่านแนวคิด Green Construction ทั้งการเลือกใช้วัสดุที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบประหยัดพลังงาน และการลดเศษวัสดุก่อสร้างด้วยระบบพรีคาสท์
ในด้านกลยุทธ์การตลาด บริษัทเตรียมเปิดตัวแคมเปญ SEACON Affiliate ภายใต้แนวคิด “Everyone Can Sell” เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถสร้างรายได้จากการแนะนำลูกค้าเข้ามาจองสร้างบ้านกับบริษัท โดยมีค่าตอบแทนตามมูลค่างานก่อสร้างและพัฒนาระบบติดตามผลผ่าน Line Official เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน
ผู้บริหารซีคอนมองว่า ในช่วง 1–2 ปีข้างหน้า ตลาดรับสร้างบ้านยังมีแรงหนุนจากความต้องการของผู้บริโภคหลายกลุ่ม ตั้งแต่วัยทำงาน ครอบครัวขยาย ไปจนถึงกลุ่ม SME ที่ต้องการบ้านผสมสำนักงาน รวมถึงกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดในระดับสากล