COTTO เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์อัจฉริยะ “KLIRR Collection Smart Edition” อย่างเป็นทางการ เพื่อตอบรับทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และการประหยัดพลังงาน โดยชูจุดเด่นเป็นสุขภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในรุ่นพื้นฐาน และสามารถอัปเกรดฟังก์ชันในภายหลังได้
นายทนงชัย อัศวินชัยโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดสุขภัณฑ์ในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความสะอาด การประหยัดน้ำ และเทคโนโลยีอัจฉริยะในที่อยู่อาศัย โดยบริษัทจึงเร่งขยายกลุ่มสินค้าสุขภัณฑ์ Smart เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตในระยะยาว
ชู “Hydro Keen Flushing” ประหยัดน้ำ 3.8 ลิตร ไม่ใช้ไฟฟ้า
KLIRR Collection Smart Edition พัฒนาต่อยอดจากไลน์ KLIRR เดิม โดยเพิ่มนวัตกรรมระบบชำระล้าง Hydro Keen Flushing System ที่ใช้แรงดันอากาศสะสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชำระล้าง ทำงานได้รวดเร็ว ลดเสียงรบกวน ใช้น้ำเพียง 3.8 ลิตรต่อครั้ง ประหยัดน้ำได้ราว 36% และสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้า
อีกหนึ่งจุดเด่นคือ ผู้ใช้สามารถอัปเกรดฟังก์ชันในอนาคตได้ง่าย โดยเปลี่ยนเฉพาะฝารองนั่งโดยไม่ต้องรื้อถอนตัวโถสุขภัณฑ์ รองรับตลาดรีโนเวทและโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ
เปิดตัว 5 รุ่น ครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานถึงฟังก์ชันครบ
KLIRR Collection Smart Edition เปิดตัวพร้อมกันทั้งหมด 5 รุ่น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
-
ULTIMATE EDITS รุ่นฟังก์ชันเต็มรูปแบบ มาพร้อมระบบอัตโนมัติ การป้องกันการกระจายของเชื้อโรคด้วย Foam Shield และระบบฆ่าเชื้อก้านฉีดด้วยแสง UV
-
กลุ่มอัปเกรดได้ 3 รุ่น ได้แก่
-
CORE EDITS รุ่นไม่ใช้ไฟฟ้า สำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานสุขภัณฑ์ Smart
-
PRO EDITS เพิ่มฟังก์ชันฝาเปิดปิดอัตโนมัติ ฝารองนั่งอุ่น และไฟส่องสว่าง
-
ULTRA EDITS เพิ่มระบบฆ่าเชื้อ UV เป่าลมแห้ง และกำจัดกลิ่น
-
-
SIGNATURE EDITS เน้นความสะดวกโดยไม่ใช้ไฟฟ้า เช่น ระบบ Kick Flush กดชำระด้วยเท้า
COTTO ตั้งราคา KLIRR Collection Smart Edition เริ่มต้นที่ 10,500 บาท พร้อมโปรโมชันช่วงเปิดตัว ทั้งส่วนลดและบริการติดตั้งฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
เป้าหมายขยายฐาน Smart Toilet สู่บ้าน คอนโด และตลาดรีโนเวท
บริษัทตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้งานสุขภัณฑ์อัจฉริยะให้กว้างขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด และขยายการใช้งานไปยังโครงการแนวราบ คอนโดมิเนียม รวมถึงตลาดรีโนเวท ควบคู่กับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการลดการใช้พลังงาน ลดการใช้น้ำ และลดของเสียในกระบวนการผลิต ภายใต้แนวคิด REIMAGINE LIVING REFINEMENT