กสทช. เข้มมาตรการ SMS ส่งจากต่างประเทศ

ใช้เทคโนโลยีคัดกรองพร้อมขึ้นสัญลักษณ์แจ้งเตือนประชาชน

43

วันนี้ (17 ต.ค. 2568) ส านักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม
แห่งชาติ (ส านักงาน กสทช.) มีการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยี
โทรคมนาคมฯ ครั้งที่ 8/2568 โดยมี พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. เป็นประธาน พล.ต.ต. กฤตัชญ์ บ ารุงรัตนยศ
ผบก.สอท.4 พร้อมผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตร. สอท. ปปง. DSI CIB ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ
สมาคมธนาคารไทย เพื่อติดตามการด าเนินงาน ตามมาตรการที่ กสทช. ก าหนดให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ด าเนินการ
ในการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีการพิจารณาเรื่องส าคัญๆ เช่น มาตรการควบคุมการส่งข้อความจากแอปพลิเคชัน
ถึงบุคคลทั่วไป โดยแยก SMS ที่ส่งจากต่างประเทศออกจาก SMS ทั่วไป พร้อมก าหนดให้ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายใช้
เทคโนโลยีในการคัดกรองเนื้อหา (SMS Firewall) หากต้องสงสัยให้ระงับการส่งต่อ หรือให้ขึ้นเครื่องหมายแจ้งเตือนประชาชน
ผู้รับข้อความ
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ผลจากที่ กสทช. ได้เริ่มบังคับใช้ 8 มาตรการส าคัญ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและ
ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ไปเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา ประกอบกับหลายประเทศให้ความส าคัญกับ
ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ เช่น สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ที่มีการขึ้นบัญชีด าองค์กรและบุคคล
ตลอดจนมีการยึดอายัดทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายแก๊งอาชญากรรม และประเทศเกาหลีใต้ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาด าเนินการ
ในประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าสถิติการโทรหลอกลวงประชาชนมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยยะ แต่กลับมี SMS หลอกลวง
มาจากต่างประเทศ เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.2568 เป็นต้นมา ซึ่งได้มีการระงับไม่ส่งต่อ SMS ต้องสงสัยมากกว่า
1 ล้านข้อความต่อวัน ปัญหาดังกล่าว กสทช. ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ก ากับดูแลผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ให้
ความส าคัญ โดยในที่ประชุมวันนี้ ได้มีการหารือมาตรการควบคุมการส่งข้อความจากแอปพลิเคชันถึงบุคคลทั่วไปในรูปแบบ
Application-to-Person หรือ A2P โดยมีแนวทางที่ส าคัญ ดังนี้
1. ผู้ให้บริการจะต้องจัดแบ่งกลุ่มผู้ส่ง SMS โดยแยกระหว่าง ผู้ส่ง SMS จากต่างประเทศ และผู้ส่ง SMS ในประเทศ
เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ให้บริการได้ให้ความร่วมมือกับ กสทช. ในการคัดกรอง SMS และลิงก์ ซึ่งในบางกรณี เช่น การส่ง SMS
ข้ามเครือข่าย อาจต้องใช้เวลามากขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ระบบการยืนยันตัวตนแบบครั้งเดียว (OTP) เพื่อเป็นการแก้ไข
ปัญหาในส่วนนี้ จึงต้องมีการจัดแบ่งกลุ่ม เพื่อให้การคัดกรอง SMS มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
2. ผู้ให้บริการจะต้องมีระบบการลงทะเบียนผู้ใช้งานในประเทศ ที่ต้องการส่ง SMS ในรูปแบบ A2P จะต้องมีการ
ยืนยันตัวตน KYC โดยก าหนดให้ผู้ส่ง SMS ในส่วนนี้ ที่ผ่านการคัดกรองมาในระดับหนึ่งเป็น White List และมีการแยกออก
จากกลุ่มผู้ส่งจากต่างประเทศอย่างชัดเจน
3. ผู้ให้บริการทุกเครือข่าย ต้องมีระบบตรวจสอบคัดกรองเนื้อหา SMS Firewall เพื่อตรวจสอบคัดกรองเนื้อหาที่มี
ความเสี่ยงไม่ให้ส่งไปยังผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะเน้นหนักไปที่ SMS ที่ส่งมาจากต่างประเทศ และถ้าผ่านการตรวจคัดกรอง
เบื้องต้นแล้ว ผู้ให้บริการยังจะต้องติดสัญลักษณ์ไว้หน้าข้อความ เพื่อให้ผู้ใช้บริการรับรู้ว่าเป็น SMS ที่ส่งมาจากต่างประเทศ
ควรต้องระวัง เช่น เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) และต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยมาตรการดังกล่าวข้างต้น ถือ
เป็นเรื่องเร่งด่วนผู้ประกอบการจะต้องด าเนินการทันที
4.การขึ้นทะเบียน Simbox จะเริ่มด าเนินการในเดือน พ.ย.2568 และเฉพาะ Simbox ที่มีการขึ้นทะเบียนเท่านั้น
ที่จะสามารถใช้งานได้ ส่วนที่เหลือจะไม่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่โครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ประกอบการได้ อันจะส่งผลให้
Simbox ที่อยู่ในความครอบครองของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ไปโดยปริยาย

Leave A Reply

Your email address will not be published.