กรุงเทพเหนือกำลังร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อโซน “จตุโชติ” กลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ใหม่ของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะหลังมีโครงการก่อสร้างทางพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยายช่วงจตุโชติ–ลำลูกกา ระยะทางกว่า 16 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะเปิดใช้ปี 2570 ส่งผลให้ทำเลนี้ถูกจับตามองว่าราคาที่ดินและอสังหาฯ จะขยับสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ราว 1.5–2 ล้านบาทต่อไร่
ล่าสุด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเกมใหญ่ ประกาศพัฒนาพื้นที่รวมกว่า 185 ไร่ ภายใต้ “Sansiri Chatuchot Community” โดยวางให้เป็นแลนด์มาร์คใหม่ในย่านกรุงเทพเหนือ เริ่มจาก 2 โครงการบ้านเดี่ยวที่จะเปิดพรีเซลล์ 4–5 ต.ค.นี้ ได้แก่
-
บุราสิริ จตุโชติ มูลค่า 2,080 ล้านบาท บ้านเดี่ยวสไตล์ New England Colonial ราคา 15–30 ล้านบาท
-
สราญสิริ จตุโชติ มูลค่า 2,500 ล้านบาท บ้านเดี่ยวดีไซน์ Urban Farmhouse ราคา 7.99–15 ล้านบาท
ด้านทำเล “จตุโชติ–สายไหม–รามอินทรา” ถือว่าเป็นหนึ่งในโซนที่เชื่อมต่อเมืองได้ง่าย ผ่านถนนหลักอย่างสุขาภิบาล 5, วัชรพล และเทพรักษ์ สามารถออกสู่ทางด่วนฉลองรัชและถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้โดยตรง ทำให้เดินทางเข้าเมืองหรือออกไปยังภาคเหนือ–ภาคตะวันออกสะดวก นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ โรงเรียนสาธิตพัฒนา และโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา


ภัคพริ้ง การุญ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “หัวใจสำคัญของแผนการรุกตลาดในครั้งนี้คือการเปิดตัว Sansiri Chatuchot Community ที่ถูกวางให้เป็น “แลนด์มาร์คใหม่” ของกรุงเทพเหนือ เป็นสังคมที่อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบแห่งแรกและแห่งเดียวในโซนนี้ โดยรวบรวม 3 โครงการระดับบนเข้าไว้ด้วยกัน บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 185 ไร่ รวมมูลค่าคอมมิวนิตี้แห่งนี้กว่า 7,700 ล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดพรีเซลล์ 2 โครงการแรก คือ ‘บุราสิริ จตุโชติ’ และ ‘สราญสิริ จตุโชติ’ ในวันที่ 4-5 ตุลาคมนี้ สานต่อโมเดล Sansiri Community ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างสังคมที่อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบในทุกทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนา”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตาคือ ภาระการจราจรในอนาคต เพราะแม้จะมีทางด่วนขยาย แต่ถนนสายหลักของโซนนี้ เช่น สุขาภิบาล 5 และวัชรพล ก็มีปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วนอยู่แล้ว ขณะเดียวกันราคาที่อยู่อาศัยในย่านนี้เริ่มขยับสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวระดับ 10–30 ล้านบาท อาจไม่ใช่ตลาด Mass ที่เข้าถึงง่าย
การที่แสนสิริประกาศลงทุนพัฒนาโครงการรวมกว่า 65,000 ล้านบาทในกรุงเทพเหนือภายในสิ้นปี 2568 (รวมโครงการจตุโชติ) สะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพทำเล แต่คำถามสำคัญคือ กำลังซื้อกลุ่มไหนที่จะตอบรับบ้านระดับพรีเมียมในโซนที่เคยถูกมองว่าเป็น “ทำเลรอง” ของกรุงเทพฯ นี่คือประเด็นที่ต้องติดตามว่า การพัฒนาเชิงรุกของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่จะช่วยยกระดับย่านนี้ได้จริง หรือทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือดเกินกว่าตลาดจะรับไหว
🔎 วิเคราะห์ทำเล: “จตุโชติ–สายไหม–รามอินทรา”
✅ จุดแข็ง
-
การเชื่อมต่อคมนาคม
-
มีถนนหลักหลายเส้น: สุขาภิบาล 5, วัชรพล, เทพรักษ์ เชื่อมเข้ารามอินทรา–ดอนเมือง–วิภาวดีได้
-
ทางด่วนฉลองรัช (ด่านจตุโชติ) ใช้ง่าย ขับเข้าเมืองได้ตรง
-
ส่วนต่อขยายทางพิเศษฉลองรัช จตุโชติ–ลำลูกกา (เสร็จปี 2570) จะช่วยเปิดพื้นที่ใหม่และดึงดีมานด์จากฝั่งปทุมธานี–ลำลูกกามาเพิ่ม
-
-
สิ่งอำนวยความสะดวก
-
มีครบทั้งห้าง โรงเรียน โรงพยาบาลในรัศมีไม่ไกล เช่น เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, The Crystal, โรงเรียนสาธิตพัฒนา, รพ.สินแพทย์
-
ใกล้สนามบินดอนเมือง แต่ไม่ได้อยู่ใต้แนวเครื่องบินพาดหัวเหมือนบางทำเล
-
-
พื้นที่ยังเหลือ
-
ที่ดินยังพอหาแปลงใหญ่ ๆ ได้ ทำให้เกิดการพัฒนา Community ขนาด 100–200 ไร่ได้ ซึ่งในเมืองแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว
-
❌ ข้อจำกัด
-
การจราจรติดขัด
-
สุขาภิบาล 5 และวัชรพลแออัดมากในช่วงเช้า–เย็น โดยเฉพาะจุดเชื่อมถนนเทพรักษ์กับรามอินทรา
-
แม้จะมีทางด่วน แต่ต้องแลกกับค่าผ่านทางทุกวัน คนกลุ่ม middle mass อาจไม่สะดวกใจ
-
-
ภาพลักษณ์ทำเล
-
จตุโชติ–สายไหม ยังไม่ใช่ “ทำเลพรีเมียม” ในสายตาทั่วไป คนส่วนใหญ่ยังนึกถึงย่านพักอาศัย mass ไม่ใช่บ้าน 20–30 ล้าน
-
ความพร้อมด้านไลฟ์สไตล์ (ร้านอาหาร คาเฟ่ คอมมูนิตี้มอลล์) ยังน้อยเมื่อเทียบกับวัชรพลหรือรามอินทราตอนต้น
-
-
กำลังซื้อ
-
บ้านราคา 7–15 ล้านยังพอขายได้กับครอบครัวใหม่–คนทำงานที่อยากขยับจากทาวน์โฮม แต่บ้าน 20–30 ล้านในโซนนี้ ต้องดูว่าจะมี demand จริง ๆ หรือเป็นการ “สร้างตลาดใหม่”
-
⚖ เทียบกับทำเลใกล้เคียง
-
วัชรพล–รามอินทราตอนต้น
-
จุดแข็ง: มีทางด่วนเชื่อมตรง, ห้าง/ร้านอาหาร/โรงเรียนครบ, lifestyle ชัดกว่า
-
ราคาที่ดินสูงกว่าแล้ว ทำให้บ้านเดี่ยวมักเกิน 15–20 ล้านขึ้นไป
-
ถือเป็นโซน “mainstream” ของกรุงเทพเหนือ
-
-
สะพานใหม่–พหลโยธิน
-
จุดแข็ง: ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว, ใกล้ดอนเมือง, ค้าขายคึกคัก
-
เป็นทำเล mass + middle income มากกว่า เหมาะกับทาวน์โฮม–คอนโดราคาจับต้องได้
-
บ้านเดี่ยว high-end ไม่ใช่ตลาดหลัก
-
-
จตุโชติ–สายไหม
-
จุดแข็ง: ที่ดินยังเหลือใหญ่ ราคายังไม่พุ่งสุด, การเดินทางใช้ทางด่วนได้สะดวก, เหมาะกับการทำ Community ใหญ่ ๆ
-
จุดอ่อน: lifestyle ยังไม่ครบ, รถติด, ภาพลักษณ์ยังไม่หรูพอที่จะดันราคา high-end ได้เต็มที่
-
🧭 บทสรุป
-
จตุโชติวันนี้คือ “ทำเลกำลังสร้างตัว” ที่มีศักยภาพโตเพราะโครงข่ายทางด่วนและการขยายเมืองไปทางเหนือ–ตะวันออก
-
จุดขายหลักคือ “ที่ดินใหญ่+โครงการใหญ่” ซึ่งหาไม่ได้ในวัชรพลหรือรามอินทราตอนต้นแล้ว
-
แต่ความท้าทายคือ ต้องพิสูจน์ demand โดยเฉพาะบ้าน 15–30 ล้าน เพราะตลาดผู้ซื้อกลุ่มนี้ยังมองหาความครบของทำเล (โรงเรียนนานาชาติ, community mall, ไลฟ์สไตล์) ที่ย่านนี้ยังไม่ชัด
เรียกได้ว่า จตุโชติเป็นเหมือน “สนามทดลอง” ของ developer รายใหญ่ ว่า จะยกระดับย่าน suburban ธรรมดาให้กลายเป็น premium hub ได้หรือไม่