บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขยับขึ้นเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยอันดับสูงสุดในรายชื่อ Fortune Southeast Asia 500 ปี 2025 สะท้อนผลประกอบการที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และความต่อเนื่องของกลยุทธ์พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสทั่วประเทศ ท่ามกลางแผนลงทุนระยะยาว 120,000 ล้านบาท
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2025 โดยนิตยสาร Fortune เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และขยับขึ้นครองตำแหน่งอันดับ 1 ในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์จากประเทศไทย
ในปี 2567 ที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนามีรายได้รวม 51,843 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16,729 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของบริษัทนับตั้งแต่ก่อตั้ง ครบรอบ 45 ปีในปีนี้
วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การเติบโตของเซ็นทรัลพัฒนาสะท้อนกลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development ที่บริษัทใช้มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์การค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และโรงแรม เพื่อเชื่อมโยงเป็นระบบนิเวศธุรกิจเดียวกัน
ในช่วงปี 2568-2572 บริษัทมีแผนลงทุนรวมกว่า 120,000 ล้านบาท โดยปีนี้เตรียมเปิดตัวโครงการสำคัญ ได้แก่ ‘Central Park’ ศูนย์การค้าใจกลางกรุงเทพฯ และ ‘Central Krabi’ ซึ่งวางตัวเป็นต้นแบบศูนย์การค้าเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เมื่อสิ้นปี 2568 บริษัทจะมีโครงการรวม 135 แห่ง ครอบคลุมศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่อยู่อาศัย โดยในจำนวนนี้มีโครงการมิกซ์ยูส 30 แห่ง จาก 44 ทำเล
ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนายังเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทในภูมิภาคที่มีผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง โดยวัลยา จิราธิวัฒน์ ยังได้รับรางวัล CEO of the Year จากเวที Retail Asia Awards 2024 ถือเป็นผู้นำหญิงคนแรกจากไทยที่ได้รับรางวัลนี้
ในมุมของการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 และได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัท Best-in-Class จากดัชนี DJSI ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน พร้อมทั้งสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมและชุมชนมากกว่า 5,000 ล้านบาทในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับการจัดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ในปีนี้ มีบริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 500 บริษัท โดยเซ็นทรัลพัฒนาอยู่ในอันดับที่ 205 ขณะที่จำนวนผู้บริหารหญิงในรายชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 37 คน จาก 29 คนในปีที่ผ่านมา สะท้อนบทบาทของผู้หญิงที่เพิ่มขึ้นในระดับผู้นำทางธุรกิจในภูมิภาค
