เอพี ไทยแลนด์ เปิดตัว “MIRTH LOFT” Ultra Townhome 2.5 ชั้น โมเดลใหม่

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโมเดลใหม่ “MIRTH LOFT” ทาวน์โฮม 2.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 ม. พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ “ที่สุดของ Living Quality ในแบบคุณ” โดยเน้นฟังก์ชัน ชั้นลอยส่วนตัว สำหรับมุมทำงาน/อ่านหนังสือ/พักผ่อน ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจเชิงลึกกับลูกค้าทาวน์โฮมกว่า 1,000 ครอบครัวในโซนสุขุมวิท–บางนา ก่อนเปิดตัวที่โครงการ PLENO สุขุมวิท–บางนา 4 (ราคาเริ่มต้น 4.39–8 ล้านบาท) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก PLENO Club, ฟิตเนส 24 ชม., สวนขนาดใหญ่ และสังคมจำกัดเพียง 130 ครอบครัว. 

นายเมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจ กลุ่มบ้านแฝดและทาวน์โฮม บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การพัฒนาโมเดล MIRTH LOFT มาจากการทำความเข้าใจ Unspoken Needs หรือความต้องการที่ลูกค้าอาจไม่เคยสื่อออกมา ทั้งเรื่องความผูกพันในบ้าน ความภูมิใจ ความมั่นคง และอิสระในการใช้ชีวิต โดยผลลัพธ์สะท้อนออกมาเป็นทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชันครบและแตกต่างจากคู่แข่ง

รายละเอียดโครงการ MIRTH LOFT

  • ทาวน์โฮม 2.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร

  • ขนาดที่ดินเริ่มต้น 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 140 ตารางเมตร

  • 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

  • ไฮไลต์ฟังก์ชัน “ชั้นลอยส่วนตัว” ใช้งานได้ทั้งมุมทำงาน มุมอ่านหนังสือ หรือมุมพักผ่อน

จุดเด่นหลักประกอบด้วย

  1. ความผูกพันและความภูมิใจ – พื้นที่ชั้นแรกออกแบบ Open Plan เชื่อมต่อโถงรับแขก พื้นที่รับประทานอาหาร และครัวแบบไร้รอยต่อ

  2. ความมั่นคงในชีวิต – รองรับการขยายหรือปรับเปลี่ยนฟังก์ชันในอนาคตด้วยการก่อสร้างแบบ Conventional

  3. อิสระและความเป็นตัวเอง – ห้องนอนใหญ่พร้อมชั้นลอย มอบพื้นที่ส่วนตัวที่ยืดหยุ่น

เปิดขายที่ PLENO สุขุมวิท–บางนา 4

MIRTH LOFT เปิดตัวครั้งแรกในโครงการ PLENO สุขุมวิท–บางนา 4 ควบคู่กับโมเดล CODY บ้านแฝด 2 ชั้น โดยโครงการมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ PLENO Club, ฟิตเนส 24 ชั่วโมง, สวนขนาดใหญ่, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ และ Co-working Lounge เพื่อสร้างสังคมคุณภาพสำหรับเพียง 130 ครอบครัว

โครงการตั้งอยู่บนทำเลติด Mega บางนา ราคาเริ่มต้น 4.39–8 ล้านบาท* เปิดให้ลงทะเบียนเข้าชมโครงการและรับสิทธิพิเศษได้ที่ apthai.ly/pleno-sukhumvit-bangna4

 

“MIRTH LOFT” ทาวน์โฮม 2.5 ชั้น

1) ทำเล: ข้อได้เปรียบเชิงที่ตั้ง (Mega Bangna / บางนา)

  • ทำเล ติด Mega บางนา ให้จุดเด่นด้านการค้าและบริการครบ (ห้างขนาดใหญ่ แหล่งอาหาร และบริการชีวิตประจำวัน) ช่วยลด friction ด้านการใช้ชีวิตสำหรับครอบครัวเมืองที่เน้นรถยนต์เป็นหลักและต้องการความสะดวกในชั่วโมงว่าง. 

  • การเชื่อมต่อจากบางนาไปยัง CBD ทำได้ผ่านทางด่วนและระบบรางในระยะที่ยอมรับได้ ทำให้โซนนี้ยังคงเป็นทำเลดาวรุ่งสำหรับที่อยู่อาศัยกลุ่มครอบครัวและผู้ต้องการพื้นที่มากขึ้นนอกตัวเมือง

2) ภาพรวมตลาดทาวน์โฮม (แนวโน้ม 2024–2025)

  • ภาพรวมอสังหาฯ ในไทยยังมีการชะลอ แต่องค์ประกอบย่อยบ่งชี้ว่า ทาวน์โฮม/บ้านแนวราบในชานเมืองมีสัญญาณฟื้นตัว เนื่องจากผู้บริโภคมองหาพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและ trade-down/upgrade จากคอนโดไปสู่ที่อยู่อาศัยแนวราบในโซนชานเมือง; รายงานตลาดประเมินว่าทำเลชานเมือง (รวม Lower Sukhumvit, Bang Na) เป็นหนึ่งในโซนที่ถูกจับตามอง. 

  • ความต้องการซื้อยังถูกกดดันจากภาระหนี้ครัวเรือนและมาตรการสินเชื่อผู้บริโภค ดังนั้นความสามารถในการจ่ายจริง (affordability) และแผนการขาย/โปรโมชัน จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อยอดขายรุ่นใหม่ ๆ

3) ตำแหน่งผลิตภัณฑ์ (Product Positioning — MIRTH LOFT)

  • กลุ่มเป้าหมายหลัก: ครอบครัวขนาดเล็ก–กลาง (young families / upgraders) ที่ต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นและฟังก์ชัน Work-from-home / Hobby space (ชั้นลอยตอบโจทย์) — เหมาะกับผู้ซื้อที่ต้องการสมดุลระหว่างราคาและฟังก์ชัน (ราคาเริ่ม ~4.39 ลบ.). 

  • ข้อได้เปรียบเชิงผลิตภัณฑ์: ฟังก์ชันชั้นลอยเป็นจุดขายเชิงความรู้สึก (emotional value) ที่แตกต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปที่มักเน้นแค่พื้นที่และจำนวนห้อง  

4) ภาพการแข่งขันในย่านบางนา (ใครแข่ง ใครใกล้เคียง)

  • เขตบางนาเป็นแหล่งแข่งสูงของโครงการแนวราบ — ทั้งแบรนด์ขนาดใหญ่ที่เน้นทาวน์โฮม/บ้านแฝด เช่น AP (PLENO / Golden Town series), Supalai, SC Asset, Pruksa (PSL/Pruksa group) และโครงการจากผู้พัฒนาอื่นๆ ที่มีโปรดักต์ในช่วงราคาใกล้เคียง ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกมากในระดับราคา 3–8 ล้านบาท. ตัวอย่างรายการเปรียบเทียบและโครงการท้องถิ่นแสดงว่ามีทาวน์โฮมหลายแบรนด์ที่วางราคาเริ่มต้นที่ระดับ 3–4 ล้านบาทในโซนบางนา. 

  • ความเสี่ยงการแข่งขัน: เมื่อมีตัวเลือกมาก จะเกิดสงครามราคา/โปรโมชันในช่วง Presale–Launch หากคู่แข่งใช้ราคาและแผนผ่อน-ดาวน์ดึงลูกค้าได้ดี อาจกดอัตราการขายสำหรับโครงการที่ราคาไม่โดดหรือ USP ไม่ชัดเจนลงได้. 

5) โอกาสเชิงกลยุทธ์ของเอพี (AP)

  • เอพีมีแบรนด์ PLENO ที่คุ้นเคยในตลาดทาวน์โฮมและมีความได้เปรียบด้านการตลาด/การเข้าถึงลูกค้า — การเน้น “Living Quality” และฟังก์ชันชั้นลอยที่เป็น Emotional Selling Point สามารถแตกตลาดจากคู่แข่งที่เน้นแค่ตัวเลขพื้นที่/จำนวนห้อง. 

  • หากผสานโปรโมชันการเงินที่ตอบโจทย์ (เช่น แพ็กเกจผ่อนดาวน์/เฟส Early-bird) และโชว์ Use-case ชัด (ตัวอย่างพื้นที่ชั้นลอยจริง ๆ แบบคอนเทนต์/ยูทูบ/VR) จะช่วยเร่งความเข้าใจและ Conversion ของลูกค้าที่ลังเล. (อ้างอิงแนวปฏิบัติการตลาด – สรุปเชิงกลยุทธ์จากสภาพตลาดทั่วไป)

6) ความเสี่ยงที่ต้องจับตา

  • ภาวะเศรษฐกิจชะลอและสินเชื่อเข้มงวด: หากกำลังซื้ออ่อน รายได้จริงของผู้ซื้อจะจำกัดยอดขาย — โครงการต้องมีนโยบายการเงิน/โปรโมชั่นที่ชัดเจนเพื่อช่วยลูกค้าข้ามอุปสรรคนี้. 

  • ความอิ่มตัวของซัพพลายทาวน์โฮมในบางนา: ปริมาณตัวเลือกมากทำให้ต้องแข่งขันด้านราคาและประสบการณ์ลูกค้า (CX) มากขึ้น — จุดขายรูปแบบใหม่ต้องสื่อสารให้ชัดเจนและจับกลุ่ม niche ให้ได้. 

7) ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ (Recommendation)

  1. ชัดเจนกับ USP: ทำคอนเทนต์จริง (showcase unit) ที่ใช้ “ชั้นลอย” เป็นตัวอย่างการใช้งาน (WFH, ห้องเด็ก, hobby studio) — ทำให้ลูกค้าเห็นภาพและคุ้มค่าราคา.

  2. แพ็กเกจการเงินยืดหยุ่น: เสนอแผนผ่อนดาวน์/Financing partner ที่ลด friction ในการกู้ เพื่อจับกลุ่ม middle-income ที่ต้องการบ้านจริงจังแต่ยังมีข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง.

  3. เน้น Community Marketing: เน้นจุดขาย “สังคม 130 ครอบครัว” ผ่านกิจกรรมเวิร์กช็อป/ทดลองใช้พื้นที่ส่วนกลางก่อนโอนจริง เพื่อเพิ่มมูลค่าเชิงสังคม (community stickiness).

  4. เฝ้าระวังราคาในย่าน: ตั้งราคา/โปรโมชันให้ยืดหยุ่นในช่วง Presale–First-launch เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งที่มักใช้ส่วนลดแรงในช่วงเปิดขาย. 


บทสรุป 

MIRTH LOFT ของเอพี วางตำแหน่งเป็นทาวน์โฮมฟังก์ชันสูงในทำเลบางนา — ใช้ชั้นลอยเป็นฟีเจอร์สร้างความแตกต่างและเล่นกับความต้องการเชิงอารมณ์ของผู้ซื้อครอบครัวเมือง แต่ความสำเร็จเชิงพาณิชย์จะขึ้นกับการสื่อสาร USP ให้ชัดเจน การจัดแพ็กเกจการเงินที่ตอบโจทย์ และการรับมือการแข่งขันในย่านบางนาที่เข้มข้น โดยเฉพาะในช่วง Presale ที่ผู้พัฒนาหลายรายพร้อมใช้โปรโมชั่นดึงลูกค้า.

ap thailandLiving QualityMIRTH LOFTPLENOบมจ. เอพี (ไทยแลนด์)
Comments (0)
Add Comment