อมารี บางแสน หมุดหมายใหม่ของการพักผ่อนใกล้กรุง ตอบเทรนด์ Micro Vacation คนรุ่นใหม่
เมื่อเทรนด์ “พักสั้นแต่พักจริง” กลายเป็นพฤติกรรมหลักของนักเดินทางยุคใหม่ โรงแรมเปิดใหม่ “อมารี บางแสน (Amari Bangsaen)” ภายใต้การบริหารของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ก็กำลังขึ้นแท่นเป็นจุดหมายพักผ่อนยอดนิยมของกลุ่มนี้อย่างรวดเร็ว เพียง 90 นาทีจากกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวก็สามารถมาสัมผัสชายทะเลบางแสนในมุมที่สงบและร่วมสมัยขึ้น โดย อมารี บางแสน เลือกตั้งอยู่ตรงข้ามชายหาดบางแสน ทำเลที่ผสานระหว่าง “ความเป็นท้องถิ่น” กับ “ความเป็นโมเดิร์น” ได้ลงตัว
คอนเซ็ปต์ “พักกาย พักใจ รีเฟรชชีวิต”
โรงแรมแห่งนี้วางตัวเป็น Lifestyle Destination ที่ออกแบบให้รองรับทุกเจเนอเรชัน ตั้งแต่คนทำงานวัยกลางที่ต้องการรีเซ็ตชีวิต ครอบครัวที่อยากหาสถานที่พักผ่อนพร้อมลูกหลาน ไปจนถึงกลุ่มเพื่อนที่อยากจัดทริปริมทะเลสั้น ๆ โดยมีบริการครบทั้ง ห้องพัก 154 ห้อง, ห้องอาหารหลายสไตล์ และบาร์ริมทะเลอย่าง Amaya Food Gallery, Maitree Bar, Aqua Eatery & Bar และ Aloha Beach Café
ไฮไลต์ที่ถูกพูดถึงมากคือสปา Breeze Spa ที่มีทรีตเมนต์เฉพาะของบางแสนอย่าง “Bamboo Sticky Rice Massage” ได้แรงบันดาลใจจากข้าวหลาม ขนมพื้นถิ่นชื่อดังของชลบุรี กลายเป็นเอกลักษณ์ที่เชื่อมระหว่างวัฒนธรรมและการผ่อนคลายระดับสากล
มากกว่าโรงแรม ส่วนหนึ่งของชุมชน
สิ่งที่ทำให้ “อมารี บางแสน” แตกต่างจากรีสอร์ตชายทะเลทั่วไป คือแนวทางการดำเนินงานแบบ Sustainable & Green Hotel ที่เน้นสร้างคุณค่าร่วมกับท้องถิ่น โรงแรมใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรในจังหวัด สนับสนุนตลาดท้องถิ่น และร่วมมือกับ โครงการ Crab Bank อ่างศิลา เพื่ออนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล
แนวทางนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่ขยายเครือข่ายโรงแรมในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจ
ครบทั้งพักผ่อนและงานธุรกิจ
นอกจากการท่องเที่ยวแบบพักผ่อน โรงแรมยังรองรับกลุ่มลูกค้าองค์กร ด้วยห้องประชุมและแกรนด์บอลรูมมาตรฐานสากล รองรับได้สูงสุด 900 คน เหมาะกับการจัดงานประชุม สัมมนา หรือกิจกรรมองค์กรที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองใหญ่มาสู่ทะเลใกล้กรุง
การมาของ “อมารี บางแสน” ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มโรงแรมหรูอีกรายให้บางแสนเท่านั้น แต่สะท้อนทิศทางใหม่ของเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งที่เริ่มยกระดับคุณภาพและภาพลักษณ์ขึ้นอีกขั้น จาก “หาดวันเดย์ทริป” ไปสู่ “จุดหมายพักผ่อนจริง” ที่มีบริการครบในตัว
และเมื่อผนวกแนวคิด Green + Local Integration เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เน้นบาลานซ์ชีวิต บางแสนอาจกำลังจะกลายเป็น “เชียงใหม่ริมทะเล” แห่งภาคตะวันออก ที่ทั้งใกล้ ทั้งสดชื่น และมีชีวิตชีวาในจังหวะของมันเอง
