อธิบดีทวีศักดิ์ โชว์ผลงานงบฯ ปี 68 สนองนโยบายเร่งด่วน ขับเคลื่อนการดำเนินงาน 6 ด้าน

ก้าวสู่ “องค์การอัจฉริยะทางดิน ขับเคลื่อนการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสม 15 ล้านไร่ ภายในปี 2570”

32

กรมพัฒนาที่ดิน เปิดผลงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรฯ และนโยบายของรัฐบาลด้านเกษตรเป็นไปตามเป้า เน้นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ และการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อการวางแผนการใช้ที่ดิน โดยพื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีด้านพัฒนาที่ดินให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ได้ขับเคลื่อนนโยบายด้านการพัฒนาที่ดิน ทั้งที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรฯ และนโยบายของรัฐบาลด้านเกษตร 9 ด้าน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ส่วนราชการภายใต้สังกัด เร่งรัดการดำเนินการตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนใน 6 ด้าน ประกอบด้วย
1. การพัฒนาสู่เกษตรทันสมัยด้วยเทคโนโลยีด้านการเกษตร (Agri Tech) มุ่งเน้นเพิ่มศักยภาพการพัฒนาเกษตรทันสมัยด้วยระบบแผนที่เกษตร เพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก ภายใต้การดำเนินงานการปรับเปลี่ยนการผลิตพืชด้วย Agri-map ช่วยให้เกษตรกรมีฐานข้อมูลประกอบการตัดสินใจและวางแผนการผลิตสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการจัดการดินที่เหมาะสม มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสม ปลูกพืชทางเลือกเกษตรผสมผสาน ช่วยลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้ อีกทั้งมีการให้บริการวิเคราะห์ดินพร้อมคำแนะนำ การบริหารการจัดการดินและปุ๋ย รวมถึงจัดทำฐานข้อมูลทรัพยากรดินและระบบฐานข้อมูลเกษตรปลอดภัย ผ่านระบบ e-Service และ Application ต่าง ๆ
2. ด้านยกระดับการบริหารจัดการน้ำ โดยดำเนินการในพื้นที่นอกเขตอนุรักษ์ ป้องกันชะล้างพังลายของดินด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาห้วยน้ำก่ำ ลุ่มน้ำหลักโขงตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดสกลนคร ครอบคลุมพื้นที่ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น 22,664 ไร่ และยังมีการเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำ ด้วยการก่อสร้างแหล่งน้ำไร่นานอกเขตชลประทาน จำนวน 13,007 บ่อ ซึ่งเมื่อดำเนินการครบตามเป้าหมายจะสามารถเก็บกักน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตรในช่วงฝนทิ้งช่วงได้
3. ด้านการฟื้นฟูทรัพยากรดินและน้ำรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ได้ดำเนินการฟื้นฟูดินและที่ดินเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ตามมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ วิธีพืช และวิธีกล โดยดำเนินการในพื้นที่ราบ/ลุ่ม ที่ดอน และที่สูง ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 90,000 ไร่ ด้วยการพัฒนาคุณภาพดินในระบบส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ พัฒนาพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ พัฒนาพื้นที่สูง แล้วขยายผลในพื้นที่ ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พัฒนาคุณภาพดินในพื้นที่ คทช. นอกจากนั้น มีการสร้างฝายชะลอน้ำเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ 16 แห่ง ส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ ด้วยการสาธิตการปรับปรุงบำรุงดิน สนับสนุนปัจจัยการผลิต รวมถึงถ่ายทอดองค์ความรู้การพัฒนาที่ดินแก่เกษตรกร เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างยั่งยืน
4. ด้านส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เพื่อส่งเสริมเกษตรสีเขียว ตาม BCG Model โดยกรมฯ ได้ดำเนินการพัฒนาด้านเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ พด. และการวิเคราะห์ดินกับการปลูก เพื่อมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มของทรัพยากรชีวภาพเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ไถกลบตอซัง ลดการเผาในพื้นที่ และธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรคุ้มค่ามากที่สุด และดำเนินการเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ที่คำนึงถึงความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดการใช้สารเคมีในการปรับปรุงบำรุงดิน ทำเกษตรกรรมยั่งยืน/เกษตรอินทรีย์ PGS และสร้างความสมดุลในการจัดการทรัพยากรที่ดิน LDN & Carbon Neutrality ซึ่งส่งผลให้เกิดการผลิตเกษตรที่ยั่งยืน ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและมีมูลค่าสูง
5. ด้านรับมือภัยพิบัติธรรมชาติ เพื่อป้องกันภัยพิบัติทั้งด้านภัยแล้ง น้ำท่วม และดินถล่ม ผ่านการอนุรักษ์ดินและน้ำ การสร้างความสมดุลในการจัดการทรัพยากรที่ดิน LDN & Carbon Neutrality และป้องกันการชะล้างพังทลายของดินแบบบูรณาการ นำไปสู่การพัฒนาเป็นฐานข้อมูลภัยพิบัติ เพื่อติดตามสถานการณ์ และป้องกันภัยพิบัติ ในพื้นที่เกษตรกรรม
6. ด้านระบบราชการดิจิทัล (Digital Government) ระบบราชการ 4.0 ของกรมพัฒนาที่ดิน ขับเคลื่อนผ่าน Smart LDD (LDD Excellent Model) มีระบบบริหารราชการดิจิทัล ที่พัฒนาฐานข้อมูลสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ระบบ e-Saraban ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน ลดความซับซ้อน มีความปลอดภัยในข้อมูล ตลอดจนพัฒนาบุคลากรด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศให้เป็นระบบราชการที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ
“กรมพัฒนาที่ดิน ยังมีแนวทางการขับเคลื่อนงานตามภารกิจภายใต้แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี พ.ศ. 2566 – 2570 ที่สามารถสะท้อนทั้งมิติกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ร่วมกับมิติด้านผลลัพธ์ที่สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กร ควบคู่กับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสม และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีพื้นที่เกษตรกรรมได้รับการอนุรักษ์ ปรับปรุง ฟื้นฟูตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ “เป็นองค์การอัจฉริยะทางดินเพื่อการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสม 15 ล้านไร่ภายในปี 2570” มีเกษตรกรได้รับการพัฒนาศักยภาพจำนวน 1,133,264 ราย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงเพื่อขับเคลื่อนแผนฯ โดยปรับการให้บริการเชิงรุกเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ประชาชน ในระดับชุมชน ระดับหน่วยงาน ระดับประเทศ และระดับโลก ประยุกต์ใช้งานวิจัยและนวัตกรรม ปรับสู่ระบบราชการดิจิทัล พัฒนาสมรรถนะบุคลากรรองรับการเปลี่ยนแปลง” อธิบดีกรพัฒนาที่ดิน กล่าวในตอนท้าย

Leave A Reply

Your email address will not be published.