บริษัท เดวา แลนด์ จำกัด เปิดตัว 3 โครงการใหม่ในกรุงเทพฯ ภายใต้แบรนด์ “แคนวาส” (CANVAS) รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท หลังร่วมทุนกับแลนด์ลอร์ดเจ้าของที่ดินใจกลางเมือง 3 ทำเล พระราม 9, อารีย์–พหลโยธิน และสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) เจาะตลาดบ้านเดี่ยวพูลวิลล่าราคาสูง 25–45 ล้านบาท เปิดพรีเซลพร้อมกันวันที่ 1 กันยายน 2568
นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดวา แลนด์ จำกัด อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี และอุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง 2568 ยังคง “ทรงกับทรุด” โดยยังไม่เห็นสัญญาณบวกชัดเจน แต่มีปัจจัยหนุนจากกรณีสหรัฐอเมริกาประกาศลดภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยจาก 36% เหลือ 19% มีผลตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2568 ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติไปยังเวียดนาม เนื่องจากเวียดนามถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 20% ขณะที่ในประเทศ หากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไม่ขยาย ตลาดอสังหาฯ ก็ไม่สามารถเติบโตได้ โดยเปรียบเทียบว่า “เหมือนเรือลอยในคลอง หากไม่มีน้ำ เรือก็ไม่ลอย”
“ปีนี้ยอดขายที่อยู่อาศัยในกทม.–ปริมณฑลยังอยู่ราว 60,000 ยูนิต สูงกว่าช่วงวิกฤตปี 2541–2543 ที่ขายได้เพียง 33,000–34,000 ยูนิตต่อปีถึงสองเท่า แต่ผู้ประกอบการรายเล็กและเจ้าของที่ดินกลับเจอแรงกดดันจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 100% หลายรายพัฒนาที่เองไม่ได้เพราะกู้ไม่ผ่าน ทางรอดคือจับมือกับผู้เล่นที่มีประสบการณ์” นายเลิศมงคลกล่าว
จากบริบทดังกล่าว เดวา แลนด์จึงจับมือกับแลนด์ลอร์ด 3 กลุ่ม เพื่อนำที่ดินเก่าเก็บมาพัฒนาโครงการพรีเมียม ได้แก่

-
แคนวาส พระราม 9
ร่วมทุนกับตระกูล “เลาหพันธุ์” ใช้ที่ดิน 1 ไร่ ซอยพระราม 9 ซอย 59 พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวพูลวิลล่า 8 ยูนิต ขนาดที่ดิน 35–43 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 366 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อมลิฟต์และ Rooftop Garden ทุกหลัง ราคา 24.9–34.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 220 ล้านบาท โดยเฟสแรกเปิดพรีเซลกันยายนนี้ และอีกเฟสก่อสร้างต่อเนื่อง คาดเสร็จกลางปี 2569 -
แคนวาส อารีย์
ร่วมทุนกับกลุ่ม “นาคะเกศ” บนที่ดิน 178 ตร.ว. พัฒนาเป็นบ้านสั่งสร้าง 4 ยูนิต ขนาด 25–45 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 350–450 ตร.ม. ราคา 35–45 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่า 160 ล้านบาท -
แคนวาส ปุณณวิถี
ร่วมทุนกับกลุ่ม “เจริญพานิช” บนที่ดิน 215 ตร.ว. พัฒนาเป็นบ้านสั่งสร้าง 4 ยูนิต ขนาด 35–55 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 350–450 ตร.ม. ราคา 35–45 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท
ทั้งสามโครงการใช้ทีมงานเดียวกันในการออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารหลังการขาย โดยสองโครงการหลัง (อารีย์ และ ปุณณวิถี) จะใช้เวลาก่อสร้างราว 1 ปีหลังพรีเซล
นายเลิศมงคลกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ดินทั้งสามทำเลจัดเป็น “ของหายาก” ในตลาด โดยมีราคาซื้อขายเฉลี่ย 150,000–500,000 บาท/ตร.ว. แต่โครงการสามารถตั้งราคาต่ำกว่าคู่แข่งราว 30% เพราะเป็นที่ดินมรดกสะสมกว่า 50–60 ปี จึงมีต้นทุนต่ำกว่า “จังหวะนี้เหมาะแก่การลงทุน เพราะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจน้อยที่สุด และที่อยู่อาศัยยังคงเป็นปัจจัยสี่ หากมีทำเลดีและราคาสมเหตุสมผลก็ยังขายได้”
รีวิวโครงการ: “แคนวาส” พูลวิลล่าตอบโจทย์ตลาดไฮเอนด์
ในเชิงผลิตภัณฑ์ “แคนวาส” ถูกวางตัวเป็นบ้านเดี่ยวพูลวิลล่ากลางเมือง จุดขายอยู่ที่ทำเลและฟังก์ชันที่ครบ ทั้งลิฟต์ส่วนตัวและ Rooftop Garden ทุกหลัง ดีไซน์รองรับความต้องการของกลุ่มครอบครัวไฮเอนด์ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่และความเป็นส่วนตัว
-
พระราม 9 เหมาะกับครอบครัวนักธุรกิจที่มองหาทำเลเชื่อมโยงทั้งย่านธุรกิจใหม่และสนามบิน
-
อารีย์–พหลโยธิน ได้เปรียบด้านไลฟ์สไตล์ ใกล้คอมมูนิตี้และร้านอาหาร เป็นทำเลที่กลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังนิยม
-
ปุณณวิถี เจาะตลาดคนเมืองชั้นกลาง–ชั้นในที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยกว้างขวางแต่ยังเชื่อมต่อ CBD ได้สะดวก
หากเทียบกับราคาที่ดินและโครงการบ้านหรูในทำเลใกล้เคียง ถือว่าตั้งราคาแข่งขันได้จริง และยังใช้ข้อได้เปรียบจากการเป็นที่ดินมรดกต้นทุนต่ำมาต่อยอด ซึ่งเป็นโมเดลที่น่าสนใจสำหรับแลนด์ลอร์ดรายอื่นที่กำลังเผชิญแรงกดดันด้านภาษีที่ดิน
นายเลิศมงคลทิ้งท้ายว่า “ทั้งสามโครงการน่าจะปิดการขายได้ไม่เกิน 1 ปี เพราะเราลงมือเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกที่ดิน ออกแบบ ไปจนถึงดูแลหลังการขาย”