“ Katoen Natie ผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับโลก เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ เชื่อมั่นไทยก้าวสู่ผู้นำโลจิสติกส์อาเซียน-เอเชีย พร้อมลงทุนเพิ่ม 7,000 ล้านบาท
บริษัท Katoen Natie สัญชาติเบลเยียม ซึ่งดำเนินธุรกิจในไทยมากกว่า 25 ปี เปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่โครงการ “อมตะซิตี้” (Amata City) ในจังหวัดระยอง บนพื้นที่กว่า 140,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าในเขต EEC โดยมีเป้าหมายในอีก 3 ปีข้างหน้าในการพัฒนาให้ก้าวสู่ความยั่งยืน พร้อมทั้งมีแผนลงทุนเพิ่มอีก 7,000 ล้านบาทในไทย เพราะเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถก้าวเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียนและเอเชียได้
มร.อาร์โน๊ด แดร์บ๊อดเรนเฮียน กรรมการผู้จัดการของบริษัท ระบุว่า บริษัทเติบโตควบคู่ไปกับลูกค้าระดับโลก และซาบซึ้งในโอกาสที่ไทยมอบให้ รวมทั้งมั่นใจในศักยภาพของประเทศ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และการสนับสนุนจากภาครัฐ ศูนย์กระจายสินค้านี้ออกแบบมาให้รองรับการขยายพื้นที่ได้สูงสุด 140,000 ตร.ม. ครอบคลุมบริการโลจิสติกส์หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ ปิโตรเคมี สินค้าอุปโภคบริโภค และอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีจุดแข็งด้านเทคโนโลยี ระบบบริหารคลังสินค้าทันสมัย และทำเลเชิงยุทธศาสตร์ใน EEC

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนกว่า 100 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อพัฒนาโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ปรับเปลี่ยนยานพาหนะและเครื่องจักรในสายการผลิตเป็นไฟฟ้า (EV) ใช้ไฟ LED และโครงการ ‘สีเขียว’ อื่นๆ รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น สร้างโอกาสจ้างงานและพัฒนาทักษะแรงงาน
ตามแผนที่ผ่านมา Katoen Natie ได้ลงทุนในไทยรวมกว่า 7,000 ล้านบาท และอีก 10 ปีข้างหน้าพร้อมลงทุนเพิ่มอีกเท่าตัวคือ 7,000 ล้านบาท เพราะมองเห็นศักยภาพไทยที่จะก้าวเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคได้แท้จริง

บริษัทซึ่งก่อตั้งในปี 1854 ที่เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม เริ่มจากธุรกิจเก็บสินค้าโภคภัณฑ์ ก่อนขยายสู่ท่าเรือ โลจิสติกส์ ปิโตรเคมี ยานยนต์ และได้ก่อตั้งสาขาในไทยในปี 2543 มีพนักงานกว่า 1,000 คน พื้นที่คลังสินค้ารวมกว่า 450,000 ตร.ม. ครอบคลุมทั้งเขตปลอดอากรและเขตทั่วไปในจังหวัดชลบุรีและระยอง จุดเด่นคือแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ครบวงจร ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่งสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน
สรุปประเด็นสำคัญ
-
จุดตั้ง: อมตะซิตี้ จังหวัดระยอง บนพื้นที่ ~140,000 ตร.ม.
-
วัตถุประสงค์: รองรับลูกค้าใน EEC และยกระดับบริการโลจิสติกส์มาตรฐานโลก
-
แผนลงทุน: เพิ่มอีก 7,000 ล้านบาทในไทยภายใน 10 ปีข้างหน้า
-
โฟกัสความยั่งยืน: หลายโครงการด้านพลังงานไฟฟ้า ยานพาหนะไฟฟ้า ใช้ LED – นวัตกรรมคลังสินค้าทันสมัย
-
เหตุผลเลือกไทย: โครงสร้างพื้นฐานแข็งแกร่ง บุคลากรมีคุณภาพ และการสนับสนุนภาครัฐ
ข้อมูลตลาดคลังสินค้า/โลจิสติกส์ในไทย (EEC & อุตสาหกรรม)
เพื่อเสริมภาพรวมตลาดที่บริษัท Katoen Natie เข้าไปดำเนินงาน ขอสรุปข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
-
ตลาดคลังสินค้าไทย พบว่า ตลาดคลังสินค้าในไทยคาดว่าจะโตแบบผสมช้าในช่วง 2025-2027 โดยได้รับแรงหนุนจากอี-คอมเมิร์ซและการลงทุนต่างประเทศในอุตสาหกรรมการผลิต แต่ก็มีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการจะต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีและคลังสินค้ายั่งยืนมากขึ้น
-
เขต EEC เป็นหัวใจของการขยายตัวโลจิสติกส์ของไทย โดยในช่วงต้น 2025 EEC ดึงดูดการลงทุนได้มาก และมีอัตราการเติบโตของพื้นที่เช่าคลังสินค้า โดยเฉพาะในระยองซึ่งราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นมาก
-
อุปทานคลังสินค้า – รายงานโดย JLL ระบุว่าในไตรมาส 2 ปี 2025 ได้มีอุปทานคลังสินค้าเกรดพรีเมียมใหม่เข้าสู่ตลาด และอัตราว่างปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นราว 11.4 % เนื่องจากมีการพัฒนาพื้นที่ใน EEC ซึ่งทำให้การแข่งขันเพิ่มขึ้น
-
ตลาดอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรม – รายงานของ Frasers Property Industrial ให้ภาพว่า ในปี 2024 ตลาดโรงงานและคลังสินค้าคาดว่าจะเติบโต โดยมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ราว 86-87% และมีแรงขับจากโครงสร้างพื้นฐานและอี-คอมเมิร์ซ
-
สัดส่วนอุปทานใน EEC – จากรายงานของ Knight Frank ระบุว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 พื้นที่คลังสินค้าพร้อมใช้งาน (ready-built warehouses) ใน EEC มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยจังหวัดชลบุรีมีสัดส่วนใหญ่ที่สุดใน EEC ≈ 26% รองลงมาคือจังหวัดฉะเชิงเทราและระยอง content.knightfrank.com
บทวิเคราะห์
-
การที่ Katoen Natie เลือกตั้งศูนย์กระจายสินค้าที่ระยองใน EEC สะท้อนให้เห็น กลยุทธ์การอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลตลาดที่ระบุว่า EEC คือพื้นที่ที่ได้รับความสนใจสูงสุดในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
-
แผนลงทุนด้าน “คลังสินค้ายั่งยืน” (พลังงานแสงอาทิตย์ ยานพาหนะไฟฟ้า ฯลฯ) สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดที่ระบุว่า ผู้ให้บริการคลังสินค้าจำเป็นต้องพัฒนา “green warehousing” เพื่อแข่งขันในระยะยาว
-
แม้ตลาดคลังสินค้าจะมีอุปทานใหม่เพิ่มขึ้นและอัตราว่างสูงขึ้น (เช่น 11.4%) แต่การเลือกตั้งศูนย์กระจายสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมาตรฐานสูงแสดงว่า Katoen Natie มองว่ามี ความแตกต่างทางการแข่งขัน (differentiation) ที่จะสร้างค่าเพิ่มให้กับลูกค้า
-
การลงทุนเพิ่มอีก 7,000 ล้านบาทในไทยสะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ และในบทความตลาดมีการระบุว่าไทยมีจุดแข็งโครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนจากภาครัฐ
ข้อสังเกต / แนวโน้มที่น่าจับตามอง
-
แม้ภาพรวมตลาดคลังสินค้าจะยังเติบโต แต่มีความเสี่ยงจากอุปทานใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก และการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตเป็นไปได้อย่างจำกัด ดังนั้นการเลือกคลังสินค้าที่มีคุณภาพสูงหรือมีบริการครบวงจรจะเป็นจุดได้เปรียบ
-
ทำเลใน EEC ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากผู้ประกอบการผลิตและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้คิดจะลงทุนหรือเช่า
-
ความยั่งยืนและเทคโนโลยี (automation, WMS, EV, solar ฯลฯ) จะกลายเป็น “มาตรฐาน” ที่ผู้ใช้บริการและผู้พัฒนาคลังสินค้าต้องให้ความสำคัญ
-
สำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์: คลังสินค้าที่เป็น built-to-suit หรือพัฒนาสำหรับลูกค้ารายใหญ่จะมีโอกาสสูงกว่าคลังทั่วไป

